วิธีการแก้อาการไฟฟ้าสถิตภายในร่างกาย มีดังนี้ 1. ดื่มน้ำให้มาก ๆ และบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ 2. สวมใส่ผ้าฝ้าย 3. สวมใส่รองเท้าหนัง 4. เพิ่มความชื้นภายในบ้าน 5. สัมผัสกับโลหะ
ปัจจัยที่สำคัญต่อความต้านทานของร่างกายต่อไฟฟ้า นั่นก็คือ ผิวหนัง ซึ่งผิวหนังนั้นเป็นตัวควบคุมปริมาณของกระแสไฟฟ้าให้ไหลผ่านเข้ามาในร่างกายได้มากหรือน้อย
โครงสร้างของอะตอม ประกอบไปด้วยอนุภาคพื้นฐาน 3 ชนิด ได้แก่ 1. โปรตอน (Proton) 2. นิวตรอน (Neutron) และ 3. อิเล็กตรอน (Electron)
Smart Plug เป็นปลั๊กไฟบ้านที่เชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Wi – Fi, 3G และ 4G เพื่อใช้ในการควบคุมการ เปิด / ปิด ของระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้าน
กล้องถ่ายภาพความร้อน (Thermal Image Camera) เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดอุณหภูมิของวัตถุ ทำงานโดยอาศัยการถ่ายภาพจากเซนเซอร์ถ่ายภาพรังสีอินฟราเรดที่แผ่กระจายอยู่บริเวณวัตถุ
IEC (International Electrotechnical Commission) เป็นองค์กรที่จัดทำมาตรฐานเกี่ยวกับไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก
ระบบป้องกันไฟกระชาก (Surge Protection) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันความเสียหายจากการที่แรงดันไฟฟ้าสูงขึ้นหรือต่ำลงเกิน 220 V ในชั่วขณะ
Wire Nut (วายนัท) เป็นอุปกรณ์ที่นิยมนำมาใช้ในการต่อระหว่างสายไฟ ทำมาจากพลาสติกและมีน็อตเอาไว้สำหรับขันอัดเพื่อยึดระหว่างสายไฟให้แน่น ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสายไฟหลวม
เทปพันสายไฟ ที่นิยมใช้กันจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด ได้แก่ 1. เทปพันสายไฟไวนิล 2. เทปพันสายไฟเมสติก 3. เทปพันสายไฟชนิดยางละลาย
Oscilloscope (ออสซิลโลสโคป) เป็นเครื่องมือวัดสัญญาณไฟฟ้า ที่จะแสดงผลออกมาในรูปแบบของกราฟ ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะนิยมนำมาใช้วัดค่าแรงดันเทียบกับคาบเวลา