จะทำอย่างไร? หากไฟฟ้าในบ้านถูกตัด!

จะทำอย่างไร? หากไฟฟ้าในบ้านถูกตัด!

สำหรับประเทศไทยที่ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน อากาศก็มักจะร้อนอบอ้าวอยู่ตลอด แต่สำหรับในช่วงฤดูร้อน ก็มักจะมีอากาศที่ร้อนมากเป็นพิเศษ ทำให้การใช้ไฟฟ้ามีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ประกอบกับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจในเวลานี้ จึงทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้ามีการค้างชำระค่าไฟเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ถูกตัดไฟ หรือบางบ้านถึงกับโดนยกมิเตอร์ไฟฟ้ากันเลยทีเดียว

เหตุผลในการงดจ่ายไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฯ นั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ คือ ไม่ชำระค่าไฟฟ้า หรือไม่ชำระหนี้สินอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้ไฟฟ้าตามกำหนด ไม่วางหลักประกันการใช้ไฟฟ้าเพิ่มให้ครบถ้วน ตามที่การไฟฟ้าฯ กำหนด ขายหรือต่อโยงไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ดูแลบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในให้มีความปลอดภัยเพียงพอ และการไฟฟ้าฯ ได้ส่งหนังสือเตือนไปยังผู้ใช้งานแล้ว แต่ก็ยังมีการกระทำโดยมิชอบเกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้าอีก เช่น การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ก่อให้เกิดคลื่นรบกวนผู้ใช้ไฟฟ้าบริเวณข้างเคียง การใช้ไฟฟ้าอันก่อให้เกิดการกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติ และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับการไฟฟ้านครหลวงที่ว่าด้วยการใช้ไฟฟ้าและบริการ พ.ศ. 2535 และแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับการไฟฟ้านครหลวงว่าด้วยการใช้ไฟฟ้าและบริการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2538

จากข้อมูลของการไฟฟ้านครหลวง ได้ระบุเหตุผลในการงดจ่ายไฟฟ้า ในกรณีไม่ชำระค่าไฟฟ้าตามกำหนด การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) มีสิทธิงดจ่ายไฟฟ้า โดยผู้ใช้มีสิทธิขอต่อกลับได้ภายใน 1 ปี แบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา ดังนี้

  1. กรณีขอต่อกลับภายใน 6 เดือน
  • ผู้ใช้จะต้องชำระค่าต่อกลับ
  • ผู้ใช้จะต้องวางหลักประกันการใช้ไฟฟ้าใหม่ ในกรณีผู้ขอต่อกลับไม่เคยวางหลักประกันการใช้ไฟฟ้ามาก่อน
  • ผู้ใช้ต้องชำระค่าตรวจสอบอุปกรณ์ภายใน กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลง
  • ในกรณีที่ กฟน. ต้องเสียค่าปรับปรุง เปลี่ยนแปลง อุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า อันเนื่องมาจากการใช้ไฟฟ้าของผู้ต่อกลับ ผู้ใช้จะต้องชำระค่าอุปกรณ์ระบบจำหน่ายไฟฟ้าเหล่านั้นตามค่าใช้จ่ายจริง
  • การไฟฟ้านครหลวง จะต่อกลับไฟฟ้าภายใน 24 ชั่วโมง สำหรับกรณีค้างชำระค่าไฟฟ้า หรือไม่ได้วางหลักประกันการใช้ไฟฟ้า

ระยะเวลาดำเนินการ กรณีถูกตัดไฟเนื่องจากค้างชำระค่าไฟฟ้า หรือไม่ได้วางหลักประกันการใช้ไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวงในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานคร หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในกรณีต่างจังหวัด จะต่อกลับไฟฟ้าให้ได้ภายใน 1 วันทำการ

  1. กรณีขอต่อกลับ 6 เดือน แต่ไม่เกิน 1 ปี
  • ชำระค่าต่อกลับ
  • วางหลักประกันการใช้ไฟฟ้าใหม่ หากผู้ขอต่อกลับไม่เคยวางหลักประกันการใช้ไฟฟ้ามาก่อน
  • ชำระค่าอุปกรณ์ระบบจำหน่ายไฟฟ้าตามค่าใช้จ่ายจริง เฉพาะกรณีที่การไฟฟ้านครหลวง ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า อันสืบเนื่องมาจากการใช้ไฟฟ้าของผู้ต่อกลับ
  • รวมทั้งต้องชำระค่าตรวจอุปกรณ์ไฟฟ้าภายใน ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในหรือไม่ก็ตาม

ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงจากความยุ่งยากต่าง ๆ ทางที่ดี เราควรรักษาวินัยโดยการจ่ายค่าไฟให้ตรงตามเวลาที่กำหนด เพราะนอกจากจะโดนตัดไฟแล้ว บางครั้งอาจถูกยกมิเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เสียเวลาในการไปติดต่อเพื่อดำเนินเรื่องการขอไฟฟ้าอีกครั้ง นอกจากนี้ เราควรศึกษาสาเหตุการตัดไฟฟ้าเบื้องต้น เพื่อเราจะได้ไม่ดำเนินการผิดกฎเกณฑ์ตามที่ทางการกำหนด เพื่อเลี่ยงการโดนตัดไฟเนื่องจากความไม่รู้ของผู้ใช้ไฟฟ้าเอง

HOTLINE-061-417-5732

https://www.facebook.com/changfidotcom

Line: @changfi

ผู้เขียน มิ่งสุดา โสมะฐิติ

ช่างไฟดอทคอม
ช่างไฟที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น