
ในระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ โซลาร์เซลล์ (Solar Cell) อุปกรณ์ทุกชิ้นมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัย แต่มีองค์ประกอบหนึ่งที่มักถูกมองข้าม นั่นคือ สายไฟฟ้า PV Type ซึ่งเปรียบเสมือนเส้นเลือดที่ลำเลียงพลังงานสะอาดจากแผงโซลาร์เซลล์มายังอินเวอร์เตอร์และระบบกักเก็บพลังงาน
การทำความเข้าใจคุณสมบัติเฉพาะของสาย PV Type จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนี้ ตั้งแต่ผู้ออกแบบระบบ ช่างติดตั้ง ไปจนถึงเจ้าของบ้านที่ต้องการความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยาวนาน
สาย PV Type คืออะไร และแตกต่างจากสายไฟทั่วไปอย่างไร?
สาย PV Type (Photovoltaic Cable) คือ สายไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับใช้ในระบบโซลาร์เซลล์โดยเฉพาะ คุณสมบัติที่โดดเด่นและแตกต่างจากสายไฟทั่วไป (เช่น สาย THW หรือ VCT) คือ:
คุณสมบัติ | สาย PV Type (โซลาร์เซลล์) | สายไฟฟ้าทั่วไป (THW/VCT) |
การทนต่อรังสี UV | สูงมาก เปลือกนอกออกแบบมาเพื่อทนแดด ทนฝน และรังสีอัลตราไวโอเลตได้ยาวนานกว่า 25 ปี | ต่ำ ไม่เหมาะกับการติดตั้งภายนอกอาคารถาวร |
การทนความร้อน | สูง ทนอุณหภูมิได้สูงถึง 90∘C หรือ 120∘C เพื่อรองรับความร้อนสะสมบนหลังคาหรือพื้นที่กลางแจ้ง | ต่ำกว่า โดยทั่วไปทนได้ 70∘C |
ความเป็นฉนวน | ฉนวนสองชั้น (Double Insulated) และมีความหนาแน่นสูง เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรและการซึมผ่านของความชื้น | ฉนวนชั้นเดียวหรือสองชั้นแต่ความทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่ำกว่า |
สารหน่วงไฟ | มักเป็นวัสดุ LSZH (Low Smoke Zero Halogen) หรือไม่ลามไฟ ซึ่งช่วยลดควันพิษเมื่อเกิดเพลิงไหม้ | มีหลายชนิด อาจไม่เน้นคุณสมบัติด้านควันพิษ |
ส่งออกไปยังชีต
ความสำคัญต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัย
การเลือกใช้สาย PV Type ที่ถูกต้องตามมาตรฐานนั้นส่งผลโดยตรงต่อทั้งระบบ:
- ความปลอดภัยสูงสุด:
- การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์อยู่กลางแจ้งตลอดเวลา ทำให้สายไฟต้องทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่รุนแรง และการกัดกร่อนจากสภาพอากาศ หากใช้สายทั่วไป ฉนวนจะแตกกรอบอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการลัดวงจรหรือ อาร์กฟอลต์ (Arc Fault) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของ อัคคีภัย ในระบบโซลาร์เซลล์
- ฉนวนสองชั้น ของสาย PV Type เป็นการป้องกันอีกชั้นหนึ่งที่สำคัญมาก เพื่อรับรองความปลอดภัยในระยะยาว
- ลดการสูญเสียพลังงาน:
- ในระบบ DC ที่มีแรงดันไฟฟ้าสูง การเลือกขนาดของสาย PV Type ที่เหมาะสมจะช่วย ลดความต้านทาน และการสูญเสียพลังงานในรูปของความร้อน (Voltage Drop) ทำให้กระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแผงถูกส่งไปยังอินเวอร์เตอร์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- อายุการใช้งานที่ยืนยาว:
- ระบบโซลาร์เซลล์ถูกออกแบบให้มีอายุการใช้งาน 20-25 ปี การใช้สายที่ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองจากหน่วยงานสากล (เช่น TUV) จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าสายไฟจะมีอายุยืนยาวเท่ากับแผงโซลาร์เซลล์ โดยไม่ต้องมีการซ่อมแซมบ่อยครั้ง
มาตรฐานที่ควรรู้ในการเลือกใช้สาย PV Type
ในการเลือกซื้อและติดตั้ง ควรพิจารณามาตรฐานและคุณสมบัติหลัก ได้แก่:
- มาตรฐานการรับรอง: ควรเลือกใช้สายที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล เช่น IEC 62930 หรือ EN 50618 และเครื่องหมายรับรองคุณภาพ เช่น TÜV
- ขนาดตัวนำ: ต้องคำนวณขนาดหน้าตัดของสาย (หน่วยเป็น ตร.มม.) ให้เหมาะสมกับกระแสไฟฟ้าและระยะทางในการเดินสาย เพื่อให้มีค่า Voltage Drop ไม่เกินที่กำหนด
- วัสดุตัวนำ: ควรเป็นทองแดงเคลือบดีบุก (Tinned Copper) ที่มีความต้านทานต่อการกัดกร่อนดีกว่าทองแดงเปลือย
การลงทุนในสาย PV Type คุณภาพสูงที่ออกแบบมาเฉพาะ จึงไม่เพียงแต่เป็นการรับประกันความปลอดภัยของทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังเป็นการรักษาประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าในระยะยาว ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในระบบโซลาร์เซลล์ทั้งหมด
บริการงานระบบไฟฟ้า ไฟบ้าน ไฟอาคาร ไฟสำนักงาน ไฟฟ้าโรงงาน #ช่างไฟดอทคอม
แจ้งปัญหาหรือปรึกษาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ฟรี!!!
HOTLINE-061-417-5732
https://www.facebook.com/changfidotcom
Line: @changfi
ขั้นตอนการใช้บริการ
แอดไลน์ > แจ้งปัญหา > รอราคา > ตกลงราคา > รับบริการ
