ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อยๆ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบนิเวศของ EV จึงเป็นสิ่งจำเป็น หนึ่งในประเด็นที่ผู้ใช้งานหรือผู้ที่กำลังพิจารณาเป็นเจ้าของ EV ให้ความสนใจคือ “ชนิดของหัวปลั๊กชาร์จ” ที่ดูเหมือนจะมีความหลากหลายและแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคทั่วโลก การรู้ว่ารถของคุณใช้ปลั๊กแบบไหน และสถานีชาร์จรอบตัวรองรับปลั๊กประเภทใด จะช่วยให้การใช้ชีวิตกับ EV เป็นเรื่องง่ายขึ้นมากครับ

โดยทั่วไปแล้ว หัวปลั๊กชาร์จ EV สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักๆ ตามลักษณะของกระแสไฟฟ้าที่ส่งผ่าน ได้แก่ การชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charging) และ การชาร์จแบบกระแสตรง (DC Fast Charging) ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีหัวปลั๊กเฉพาะของตัวเอง

1. หัวปลั๊กสำหรับชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charging)

การชาร์จแบบ AC เป็นการชาร์จที่ใช้ไฟบ้านหรือไฟสำนักงานเป็นหลัก โดยกระแสไฟฟ้า AC จะถูกแปลงเป็น DC โดย Onboard Charger ที่อยู่ในตัวรถ EV เอง ซึ่งการชาร์จประเภทนี้จะใช้เวลาค่อนข้างนาน เหมาะสำหรับการชาร์จข้ามคืนที่บ้าน หรือการชาร์จระหว่างจอดรถในที่ทำงานหรือตามศูนย์การค้า

• Type 1 (SAE J1772):
  • ลักษณะเด่น: เป็นหัวปลั๊กแบบ 5 พิน ทรงกลม ไม่มีกลไกล็อกอัตโนมัติ
  • การใช้งาน: พบมากในรถยนต์ EV ที่จำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือและญี่ปุ่น รวมถึงรถ EV รุ่นเก่าบางรุ่น
  • กำลังชาร์จ: รองรับการชาร์จแบบเฟสเดียว โดยปกติสูงสุด 7.4 kW
• Type 2 (Mennekes / IEC 62196-2):
  • ลักษณะเด่น: เป็นหัวปลั๊กแบบ 7 พิน มีกลไกล็อกอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย
  • การใช้งาน: เป็นมาตรฐานที่แพร่หลายที่สุดในยุโรป, ออสเตรเลีย, อินเดีย และหลายประเทศในเอเชียรวมถึงประเทศไทย รถยนต์ EV รุ่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่ในตลาดโลก (ยกเว้นในอเมริกาเหนือและจีน) มักจะใช้ Type 2 สำหรับการชาร์จ AC
  • กำลังชาร์จ: มีความยืดหยุ่นสูง รองรับทั้งการชาร์จแบบเฟสเดียวและสามเฟส สามารถจ่ายไฟได้ตั้งแต่ 3.7 kW ไปจนถึง 22 kW หรือสูงสุด 43 kW ในบางสถานี
• GB/T (AC):
  • ลักษณะเด่น: เป็นหัวปลั๊กเฉพาะสำหรับตลาดจีน
  • การใช้งาน: ใช้สำหรับรถยนต์ EV ที่จำหน่ายในประเทศจีนเท่านั้น
  • กำลังชาร์จ: รองรับการชาร์จสูงสุด 7.4 kW

2. หัวปลั๊กสำหรับชาร์จแบบกระแสตรง (DC Fast Charging)

การชาร์จแบบ DC Fast Charging เป็นการชาร์จที่จ่ายไฟ DC ตรงเข้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์โดยตรง ทำให้สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับการเดินทางไกลที่ต้องการเติมพลังงานอย่างรวดเร็วตามสถานีบริการน้ำมันหรือสถานีชาร์จสาธารณะ

• CCS (Combined Charging System):
  • ลักษณะเด่น: เป็นการผสานรวมหัวปลั๊ก AC (Type 1 หรือ Type 2) เข้ากับพิน DC เพิ่มเติม ทำให้พอร์ตชาร์จบนรถยนต์สามารถรองรับได้ทั้ง AC และ DC ในช่องเดียว แบ่งเป็น:
    • CCS1: พัฒนาบนพื้นฐานของ Type 1 ใช้ในอเมริกาเหนือ
    • CCS2: พัฒนาบนพื้นฐานของ Type 2 เป็นมาตรฐานหลักในยุโรปและประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย
  • การใช้งาน: เป็นมาตรฐานที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบันจากผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ทั่วโลก
  • กำลังชาร์จ: รองรับการชาร์จที่เร็วมาก ตั้งแต่ 50 kW ไปจนถึง 350 kW หรือสูงกว่าในอนาคต
• CHAdeMO:
  • ลักษณะเด่น: เป็นหัวปลั๊กที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ มี 10 พิน
  • การใช้งาน: พัฒนาโดยกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น เช่น Nissan, Mitsubishi พบมากในรถ EV รุ่นเก่าบางรุ่นที่จำหน่ายทั่วโลก
  • กำลังชาร์จ: เริ่มต้นที่ 50 kW สำหรับรุ่นแรกๆ และพัฒนาไปถึง 400 kW ในรุ่นใหม่
  • คุณสมบัติพิเศษ: CHAdeMO โดดเด่นด้วยความสามารถในการชาร์จแบบสองทิศทาง (Bidirectional Charging) เช่น V2G (Vehicle-to-Grid) หรือ V2H (Vehicle-to-Home) ที่สามารถดึงไฟจากรถกลับมาใช้งานได้
• GB/T (DC):
  • ลักษณะเด่น: เป็นหัวปลั๊กเฉพาะสำหรับตลาดจีน
  • การใช้งาน: ใช้สำหรับรถยนต์ EV ที่จำหน่ายในประเทศจีนเท่านั้น
  • กำลังชาร์จ: สามารถจ่ายไฟได้สูงสุดถึง 237.5 kW
• Tesla Supercharger / NACS (North American Charging Standard):
  • ลักษณะเด่น: เป็นขั้วต่อที่ถูกออกแบบให้มีความกะทัดรัด สามารถรองรับได้ทั้งการชาร์จ AC และ DC ในหัวเดียว
  • การใช้งาน: เดิมเป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะของรถยนต์ Tesla ในอเมริกาเหนือ
  • กำลังชาร์จ: Supercharger ของ Tesla เป็นหนึ่งในระบบชาร์จที่เร็วที่สุดในโลก
  • แนวโน้ม: Tesla ได้เปิดเผยการออกแบบขั้วต่อนี้และเปลี่ยนชื่อเป็น NACS เพื่อให้ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นนำไปใช้ ทำให้ NACS กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอเมริกาเหนืออย่างรวดเร็ว ส่วน Tesla ในยุโรปและประเทศอื่นๆ ส่วนใหญ่จะใช้ CCS2

สรุปและข้อควรพิจารณาสำหรับผู้ใช้งาน EV

การเลือกซื้อรถ EV หรือการใช้งานสถานีชาร์จต่างๆ สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาถึงหัวปลั๊กที่รถของคุณรองรับ และหัวปลั๊กที่มีให้บริการในพื้นที่ที่คุณใช้รถเป็นประจำ

• ในประเทศไทย: มาตรฐานหัวปลั๊กที่พบได้ทั่วไปคือ Type 2 สำหรับการชาร์จ AC และ CCS2 สำหรับการชาร์จ DC Fast Charging ดังนั้น หากคุณเป็นเจ้าของรถ EV ที่จำหน่ายในไทย การใช้รถและหาสถานีชาร์จจะค่อนข้างสะดวก
• รถนำเข้า/รถหิ้ว: หากคุณเป็นเจ้าของรถ EV ที่นำเข้าจากประเทศอื่น เช่น Tesla จากอเมริกาเหนือ (ที่อาจใช้ NACS) หรือรถจากญี่ปุ่นที่ใช้ CHAdeMO คุณอาจต้องพิจารณาการใช้อะแดปเตอร์แปลงหัวปลั๊ก หรือตรวจสอบสถานีชาร์จที่มีหัวปลั๊กแบบเฉพาะเหล่านั้น
• เทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนผ่าน: วงการ EV กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงและรวมมาตรฐานของหัวปลั๊กให้เป็นหนึ่งเดียวมากขึ้นในอนาคต เช่น การที่ NACS กำลังแพร่หลายในอเมริกาเหนือ เพื่อลดความซับซ้อนและเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งาน

การทำความเข้าใจชนิดของหัวปลั๊กชาร์จ EV ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอย่างที่คิด และจะช่วยให้คุณมั่นใจในการเดินทางและใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

งานระบบไฟฟ้า ดูแล ออกแบบ ติดตั้ง ซ่อมบำรุงระบบ งานระบบไฟฟ้า ไฟฟ้ากำลัง #ช่างไฟดอทคอม

ขั้นตอนการใช้บริการ

แอดไลน์ > แจ้งปัญหา > รอราคา > ตกลงราคา > รับบริการ

HOTLINE-061-417-5732

https://www.facebook.com/changfidotcom

Line: @changfi

หัวปลั๊กชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า, หัวปลั๊กชาร์ต EV