วิธีเปลี่ยนสายไฟ

วิธีการเปลี่ยนสายไฟใหม่

การเปลี่ยนสายไฟ สามารถตรวจสอบได้ง่าย ๆ ซึ่งมีแค่ 2 วิธีเท่านั้น และไม่ต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะทางด้วย ใช้แค่ตามองก็สามารถรู้ได้ โดยขั้นตอนแรก ต้องเช็กอายุของบ้านกับการเดินสายไฟ ซึ่งปกติแล้วสายไฟจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 15 – 20 ปี โดยเรียกได้ว่าเป็นระยะเวลาที่นานมาก ๆ และถ้าเกิดว่าบ้านของคุณ ติดตั้งการเดินสายแบบท่อร้อยสาย สายไฟก็จะมีอายุการใช้งานเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ถึง 5 – 10 ปี ด้วยกัน  และควรตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับสายไฟโดยตรง คือ เต้ารับและสวิตช์ไฟ โดยต้องตรวจสอบว่าตัวแผงเต้ารับนั้นเริ่มหลวมและหลุดจากผนังหรือเปล่า หรือว่ามีรอยแตกร้าวตรงไหน รวมถึงอาการหลวมของรูเสียบปลั๊กบนเต้ารับกับตัวสวิตช์ไฟ และต้องเช็กดูให้ดีว่ามีไฟฟ้าเข้าเต้ารับทุกจุดหรือเปล่า โดยต้องใช้ไขควงเช็กไฟหรือว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับตรวจเช็กเต้ารับโดยตรง สามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องไฟฟ้าทั่วไป 

นอกจากจะเช็กสายไฟแล้วก็ควรเช็กมิเตอร์หน้าบ้านด้วย เพราะว่าเป็นส่วนประกอบหลักของระบบไฟฟ้าเช่นกัน เพราะจะรู้ได้ว่ามีไฟฟ้ารั่วหรือเปล่า ด้วยการปิดการใช้ไฟฟ้าทุกจุด ทั้งปลั๊กไฟและสวิตช์ไฟ ถ้ามิเตอร์หน้าบ้านวิ่งก็แสดงว่ามีการรั่วของกระแสไฟฟ้า หรือจะตรวจสอบด้วยการกดปุ่ม Test ซึ่งถ้าอยู่ในสภาวะปกติ ไฟจะตัดอัตโนมัติถ้ากดปุ่มนี้ แต่ถ้าเกิดเครื่องไม่ตอบสนอง ก็ควรต้องมีการเรียกช่างมาแก้ไขต่อไป

สำหรับการเปลี่ยนสายไฟใหม่ ถ้าเกิดสายไฟที่ใช้อยู่มีอายุการใช้งานเกิน 20 ปี ก็ควรที่จะเริ่มตรวจเช็กได้แล้วว่ามีปัญหารอยแตก รอยเปื่อย ที่เสื่อมสภาพจากการใช้งานหรือไม่ และสายไฟเก่ากับสายไฟที่ยังไม่เคยเดินสายดิน ก็อาจจะต้องเปลี่ยนแบบยกแผงไปเลย

ผู้เขียน :  มนัสญา ถนอมการค้า

ช่างไฟดอทคอม
ช่างไฟที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น