หากพูดถึงชื่อบริษัทที่อยู่เบื้องหลังระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ หรือแม้แต่เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าตามปั๊มน้ำมันที่เราเห็นกันชินตา ชื่อของ ABB (Asea Brown Boveri) จะต้องปรากฏขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีวิศวกรรมไฟฟ้าที่เก่าแก่และล้ำสมัยที่สุดบริษัทหนึ่งของโลก

1. ประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 130 ปี

ABB เกิดจากการควบรวมกิจการในปี ค.ศ. 1988 ระหว่างสองบริษัทวิศวกรรมยักษ์ใหญ่ คือ ASEA จากสวีเดน และ BBC (Brown Boveri) จากสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งสองบริษัทมีรากฐานย้อนกลับไปถึงช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นยุคเริ่มต้นของการใช้ไฟฟ้าในยุโรป

ในประเทศไทย ABB เข้ามาทำตลาดมานานกว่า 90 ปี โดยเริ่มต้นจากการส่งมอบมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ให้กับอุตสาหกรรมซีเมนต์ และเติบโตจนกลายเป็นพันธมิตรหลักของทั้งภาครัฐ (กฟผ., กฟภูมิภาค, กฟน.) และภาคเอกชน

2. ธุรกิจหลักของ ABB ในด้านไฟฟ้า

ABB แบ่งโครงสร้างธุรกิจออกเป็นหลายภาคส่วน แต่หัวใจสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรมคือ Electrification (ธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ไฟฟ้า) ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ:

ระบบไฟฟ้าแรงสูงและแรงดันกลาง: อุปกรณ์ในสถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) และตู้สวิตช์เกียร์ (Switchgear) ที่ช่วยควบคุมการจ่ายไฟให้เสถียรและปลอดภัย
อุปกรณ์ไฟฟ้าแรงต่ำ: เบรกเกอร์ (Circuit Breaker), สวิตช์ไฟ, และปลั๊กไฟคุณภาพสูงที่เราใช้ในอาคารและโรงงาน
Smart Building & Home Automation: ระบบควบคุมอาคารอัจฉริยะ (KNX) ที่ช่วยจัดการแสงสว่าง เครื่องปรับอากาศ และความปลอดภัยผ่านสมาร์ทโฟน

3. ผู้นำด้าน EV Charging ในประเทศไทย

หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ทำให้คนยุคใหม่รู้จัก ABB มากขึ้นคือ ABB Terra EV Charger ซึ่งเป็นหัวใจของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) หลายแห่งในไทย เช่น สถานี Elex by EGAT

ความโดดเด่น: เครื่องชาร์จของ ABB ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและการรองรับมาตรฐาน CCS2 (มาตรฐานยุโรป/ไทย) และ CHAdeMO * เทคโนโลยี: รองรับการชาร์จเร็ว (DC Fast Charge) ตั้งแต่ระดับ 50kW ไปจนถึง 360kW ซึ่งสามารถชาร์จรถให้เต็มได้ภายในเวลาไม่กี่นาที

4. ทำไมต้อง ABB? (จุดแข็งที่เหนือกว่า)

ความปลอดภัย: ผลิตภัณฑ์ของ ABB ผ่านมาตรฐานสากลที่เข้มงวดที่สุด ลดความเสี่ยงเรื่องไฟไหม้หรือไฟฟ้าลัดวงจร
ความยั่งยืน (Sustainability): ABB มุ่งเน้นการสร้างเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ภายใต้สโลแกน “Writing the future”
บริการหลังการขาย: ในประเทศไทย ABB มีศูนย์บริการและทีมวิศวกรที่เชี่ยวชาญกระจายอยู่ตามหัวเมืองหลัก เช่น ระยอง และแหลมฉบัง เพื่อรองรับภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ

บริษัท ไฟฟ้า ABB ไม่ได้เป็นเพียงผู้ขายอุปกรณ์ไฟฟ้า แต่เป็น “ผู้สร้างโครงสร้างพื้นฐาน” ที่ช่วยให้โลกหมุนไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่หลอดไฟดวงเล็กๆ ในบ้าน ไปจนถึงหุ่นยนต์อุตสาหกรรมและสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต

บริการงานระบบไฟฟ้า ไฟบ้าน ไฟอาคาร ไฟสำนักงาน ไฟฟ้าโรงงาน #ช่างไฟดอทคอม