
โทรเลข หรือ Telegraph คือนวัตกรรมสำคัญที่พลิกโฉมหน้าการสื่อสารของโลกในศตวรรษที่ 19 มันเป็นระบบที่ช่วยให้เราสามารถส่งข้อความได้ในระยะทางไกลๆ ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าการเดินทางของจดหมาย บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงหลักการทำงานเบื้องหลังอุปกรณ์สื่อสารสุดคลาสสิกชิ้นนี้
กำเนิดจากแม่เหล็กไฟฟ้า
หัวใจสำคัญของโทรเลขคือ แม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งถูกค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์หลายท่าน แต่ที่สำคัญและนำมาประยุกต์ใช้กับโทรเลขอย่างเป็นรูปธรรมคือการค้นพบของ แซมวล มอร์ส (Samuel Morse) นักประดิษฐ์ชาวอเมริกันผู้พัฒนาโทรเลขเชิงพาณิชย์และ รหัสมอร์ส (Morse Code) ที่ใช้กันแพร่หลายที่สุด
หลักการพื้นฐานคือ เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวด มันจะสร้าง สนามแม่เหล็ก ขึ้นมา สนามแม่เหล็กนี้จะสามารถดึงดูดวัตถุที่เป็นโลหะได้ เมื่อไม่มีกระแสไฟฟ้า สนามแม่เหล็กก็จะหายไป วัตถุนั้นก็จะกลับสู่สภาพเดิม การเปลี่ยนแปลงนี้เองที่ถูกนำมาใช้ในการส่งสัญญาณ
ส่วนประกอบหลักและการทำงาน
ระบบโทรเลขแบบง่ายๆ ประกอบด้วยอุปกรณ์หลักๆ ไม่กี่อย่าง:
- เครื่องส่ง (Transmitter): ส่วนนี้จะคล้ายกับสวิตช์เปิด-ปิดกระแสไฟฟ้า หรือที่เราเรียกว่า แป้นส่งสัญญาณ (Key) ผู้ส่งจะกดแป้นส่งสัญญาณเพื่อเชื่อมต่อและตัดวงจรกระแสไฟฟ้า การกดสั้นๆ จะสร้างสัญญาณ “จุด” (dot) และการกดค้างนานๆ จะสร้างสัญญาณ “ขีด” (dash)
- สายส่งสัญญาณ (Transmission Line): โดยทั่วไปคือ สายทองแดง ที่เชื่อมต่อระหว่างเครื่องส่งและเครื่องรับ กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านสายนี้
- เครื่องรับ (Receiver): ประกอบด้วย แม่เหล็กไฟฟ้า และ แกนเหล็กอ่อน (Armature) เมื่อกระแสไฟฟ้าจากเครื่องส่งมาถึงขดลวดในเครื่องรับ แม่เหล็กไฟฟ้าจะทำงานและดึงดูดแกนเหล็กอ่อนให้เคลื่อนที่ การเคลื่อนที่นี้จะถูกแปลงเป็นการเคลื่อนไหวที่สังเกตได้ เช่น เสียงคลิก หรือการพิมพ์ลงบนกระดาษ
- แหล่งจ่ายไฟ (Power Source): เช่น แบตเตอรี่ ทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับวงจร
รหัสมอร์ส: ภาษาสากลของโทรเลข
สิ่งที่ทำให้โทรเลขมีประสิทธิภาพคือ รหัสมอร์ส ซึ่งเป็นชุดของสัญญาณ “จุด” และ “ขีด” ที่ใช้แทนตัวอักษร ตัวเลข และเครื่องหมายวรรคตอนต่างๆ ตัวอย่างเช่น:
- A: .-
- B: -…
- C: -.-.
- D: -..
ผู้ส่งจะใช้แป้นส่งสัญญาณเพื่อส่งรหัสมอร์สตามข้อความที่ต้องการ เมื่อรหัสเดินทางมาถึงเครื่องรับ ผู้รับก็จะถอดรหัสจากสัญญาณที่ได้ยินหรือเห็นกลับมาเป็นตัวอักษรเดิม
ตัวอย่างการส่งข้อความ “SOS”
ลองจินตนาการการส่งข้อความขอความช่วยเหลือ “SOS” ซึ่งเป็นรหัสสากลที่รู้จักกันทั่วโลก:
- S: จุด จุด จุด (กดสั้นๆ สามครั้ง)
- O: ขีด ขีด ขีด (กดค้างสามครั้ง)
- S: จุด จุด จุด (กดสั้นๆ สามครั้ง)
ผู้ส่งจะกดแป้นส่งสัญญาณตามลำดับนี้ กระแสไฟฟ้าจะถูกส่งผ่านสายไปยังเครื่องรับที่ปลายทาง เครื่องรับก็จะแปลงสัญญาณเหล่านั้นกลับมาเป็นการเคลื่อนไหวหรือเสียง ทำให้ผู้รับสามารถถอดรหัสออกมาเป็น “SOS” ได้
บริการงานระบบไฟฟ้า ไฟบ้าน ไฟอาคาร ไฟสำนักงาน ไฟฟ้าโรงงาน #ช่างไฟดอทคอม
แจ้งปัญหาหรือปรึกษาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ฟรี!!!
HOTLINE-061-417-5732
https://www.facebook.com/changfidotcom
Line: @changfi
ขั้นตอนการใช้บริการ
แอดไลน์ > แจ้งปัญหา > รอราคา > ตกลงราคา > รับบริการ
