มอเตอร์แบบมีแปรงถ่านเป็นเทคโนโลยีที่เก่าแก่กว่าและใช้งานง่ายที่สุด

ราคาถูกและหาซื้อง่าย: มีโครงสร้างที่ไม่ซับซ้อน ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำ
ควบคุมง่าย: สามารถต่อเข้ากับแหล่งจ่ายไฟ DC ได้โดยตรง ไม่ต้องใช้วงจรควบคุมที่ซับซ้อนในการทำงาน
ความทนทานในบางสภาพแวดล้อม: ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ร้อนและสกปรกได้ดีกว่าวงจรอิเล็กทรอนิกส์
แรงบิดเริ่มต้นสูง: สามารถสร้างแรงบิดที่สูงในรอบต่ำได้ดี

การสึกหรอและการบำรุงรักษา: แปรงถ่านและคอมมิวเตเตอร์เป็นชิ้นส่วนที่เสียดสีกัน จึงเกิดการสึกหรอและต้องเปลี่ยนใหม่ตามอายุการใช้งาน
ประสิทธิภาพต่ำ: การสูญเสียพลังงานในรูปแบบความร้อนและความร้อนสะสมจากการเสียดสี ทำให้มีประสิทธิภาพโดยรวมต่ำกว่า
เกิดประกายไฟและเสียงรบกวน: การสับเปลี่ยนกระแสทางกลไกทำให้เกิดประกายไฟ (เป็นอันตรายในสภาพแวดล้อมไวไฟ) และเกิดสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) รวมถึงเสียงรบกวนสูง
ความเร็วจำกัด: ถูกจำกัดความเร็วรอบสูงสุดเนื่องจากการสึกหรอและแรงเสียดทาน

มอเตอร์ BLDC ใช้เทคโนโลยีที่ใหม่กว่า โดยแทนที่แปรงถ่านด้วยวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ประสิทธิภาพสูง: ไม่มีแรงเสียดทานจากการสัมผัสของแปรงถ่าน ทำให้การสูญเสียพลังงานต่ำ และมีประสิทธิภาพโดยรวมสูง (ประหยัดพลังงานกว่า)
อายุการใช้งานยาวนานและไม่ต้องบำรุงรักษา: ไม่มีชิ้นส่วนที่สัมผัสกันและสึกหรอ (ยกเว้นตลับลูกปืน) ทำให้อายุการใช้งานนานกว่ามาก
เสียงเบาและความเร็วสูง: ทำงานได้เงียบกว่า ไม่มีประกายไฟ และสามารถทำความเร็วรอบได้สูงกว่ามาก
การจัดการความร้อนที่ดีกว่า: ขดลวดอยู่ที่ส่วนอยู่กับที่ (Stator) ทำให้ง่ายต่อการระบายความร้อน

ราคาแพง: มีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่า เนื่องจากต้องใช้แม่เหล็กถาวรคุณภาพสูงและวงจรควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (Controller หรือ ESC)
วงจรควบคุมซับซ้อน: ต้องมีอุปกรณ์ควบคุมมอเตอร์ (Controller) เพื่อสับเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าตามตำแหน่งของโรเตอร์ ซึ่งทำให้ระบบโดยรวมมีความซับซ้อนมากขึ้น
ความไวต่อสภาพแวดล้อม: วงจรควบคุมอิเล็กทรอนิกส์อาจมีความไวต่อความชื้น, ความร้อนสูง, และการสั่นสะเทือนที่รุนแรงกว่า

บริการงานระบบไฟฟ้า ไฟบ้าน ไฟอาคาร ไฟสำนักงาน ไฟฟ้าโรงงาน #ช่างไฟดอทคอม

แจ้งปัญหาหรือปรึกษาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ฟรี!!!
HOTLINE-061-417-5732

Line: @changfi