
พื้นที่ไหนบ้างที่เสี่ยงฟ้าผ่า? ทำความเข้าใจเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
ฟ้าผ่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่รุนแรงและอันตรายถึงชีวิต โดยทั่วไปแล้ว ฟ้าร้องฟ้าผ่ามักเกิดขึ้นบ่อยในบริเวณที่มีอากาศร้อนชื้นและมีการปะทะกันของมวลอากาศ แต่ความเสี่ยงในการถูกฟ้าผ่าไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่พายุเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับ ลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ ที่เรายืนอยู่ด้วย
การทำความเข้าใจลักษณะพื้นที่ที่ดึงดูดกระแสไฟฟ้าจากฟ้าแลบจะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงจุดเสี่ยงและหาที่กำบังได้อย่างปลอดภัยเมื่อเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง
1. ลักษณะพื้นที่โล่งและพื้นที่สูง
นี่คือพื้นที่เสี่ยงอันดับหนึ่งที่ดึงดูดฟ้าผ่าได้ง่ายที่สุด เนื่องจากเป็นจุดที่ใกล้เมฆฝนฟ้าคะนองที่สุด
- พื้นที่โล่งกว้าง: เช่น ทุ่งนา, สนามกอล์ฟ, ชายหาด, หรือกลางทะเลสาบ เมื่อไม่มีวัตถุอื่นสูงกว่าตัวคุณ ทำให้คุณกลายเป็น จุดที่สูงที่สุด ในบริเวณนั้นโดยปริยาย กระแสไฟฟ้าจึงมีแนวโน้มที่จะเลือกผ่านตัวคุณลงสู่พื้นดิน
- ยอดเขาและเนินสูง: ภูเขาและยอดตึกสูงมักจะเป็นจุดแรกที่ฟ้าผ่าลงถึง เนื่องจากอยู่ในระดับความสูงที่เหมาะสมต่อการเป็นตัวรับประจุไฟฟ้า
- ใต้วัตถุสูงเดี่ยว ๆ: การยืนอยู่ใต้ต้นไม้สูงเดี่ยวๆ กลางทุ่งนา หรือเสาไฟฟ้าที่ตั้งโดดเดี่ยว ถือว่าอันตรายอย่างยิ่ง เพราะกระแสฟ้าผ่าลงวัตถุนั้นอาจ กระโดดมาสู่ตัวคุณ (Side Flash) หรือวิ่งเข้าสู่พื้นดินแล้วกระจายมาถึงคุณ (Ground Current)
2. พื้นที่ที่มีน้ำและความชื้นสูง
น้ำและพื้นที่เปียกชื้นเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดีมาก ทำให้เกิดความเสี่ยงสูงแม้จะไม่ได้ถูกผ่าโดยตรง
- แหล่งน้ำ: สระว่ายน้ำ, ทะเลสาบ, ทะเล, และแม่น้ำ ฟ้าผ่าสามารถวิ่งผ่านผิวน้ำได้เป็นระยะทางไกล หากคุณอยู่ในน้ำหรือสัมผัสกับผิวน้ำในช่วงที่มีพายุฟ้าคะนอง
- พื้นเปียก: พื้นดินที่เปียกชื้นมาก จะช่วยให้กระแสไฟฟ้าที่ผ่าลงบนพื้นดินสามารถ แพร่กระจาย ออกไปในวงกว้างได้อย่างรวดเร็วและเป็นอันตราย
3. พื้นที่ที่มีวัตถุโลหะนำไฟฟ้า
วัตถุที่เป็นโลหะไม่ได้ดึงดูดฟ้าผ่าโดยตรง แต่เป็น ตัวนำ ที่อันตรายมากหากฟ้าผ่าลงใกล้บริเวณนั้น
- โครงสร้างโลหะ: รั้วโลหะ, รางรถไฟ, เครื่องจักรขนาดใหญ่, และโครงสร้างเหล็กต่าง ๆ หากฟ้าผ่าลงใกล้ โลหะเหล่านั้นจะกลายเป็นทางผ่านของกระแสไฟฟ้าได้ทันที
- ภายในโครงสร้างที่เปิดโล่ง: เพิงพัก, ระเบียงที่มีหลังคาเปิด, โรงจอดรถที่ไม่มีผนัง (Carports) แม้จะมีหลังคาบังฝน แต่กระแสฟ้าผ่าอาจวิ่งตามโครงสร้างโลหะ หรือกระโดดเข้ามาถึงบุคคลได้
4. พื้นที่ภายในอาคารที่ไม่ปลอดภัย
แม้จะอยู่ในอาคาร แต่ก็ยังมีจุดที่เสี่ยงต่อการถูกนำกระแสไฟฟ้าเข้ามาภายในบ้าน
- ใกล้หน้าต่างและประตู: กระแสฟ้าผ่าสามารถวิ่งผ่านกรอบโลหะของประตู/หน้าต่าง หรือกระโดดข้ามช่องว่างได้
- วัตถุที่เชื่อมต่อกับระบบภายนอก: การสัมผัสก๊อกน้ำ, ท่อประปา, อ่างล้างจาน, หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่เสียบปลั๊กอยู่ระหว่างเกิดพายุ เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะฟ้าผ่าอาจวิ่งเข้าสู่ตัวอาคารผ่านระบบท่อน้ำหรือระบบสายไฟฟ้าได้ (โดยเฉพาะฟ้าผ่าที่ผ่าลงเสาไฟด้านนอกบ้าน)
ข้อแนะนำเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
เมื่อเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ควรปฏิบัติตามกฎสำคัญ: “เมื่อได้ยินเสียงฟ้าร้อง ให้รีบเข้าอาคาร”
- หาที่กำบังที่มั่นคง: อาคารขนาดใหญ่ที่มีผนังและหลังคาเป็นที่ปลอดภัยที่สุด (ไม่ใช่เพิงพักหรือโครงสร้างเปิด)
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสตัวนำ: อยู่ห่างจากหน้าต่าง, ประตู, อ่างล้างจาน, ท่อประปา, และอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับปลั๊กไฟ
- รถยนต์เป็นที่ปลอดภัย: รถยนต์ที่มีหลังคาเป็นโลหะ (ไม่ใช่รถเปิดประทุน) ถือเป็นที่หลบภัยที่ปลอดภัย เนื่องจากกระแสไฟฟ้าจะวิ่งผ่านเปลือกโลหะด้านนอกลงสู่พื้นดิน (Faraday Cage Effect)
บริการงานระบบไฟฟ้า ไฟบ้าน ไฟอาคาร ไฟสำนักงาน ไฟฟ้าโรงงาน #ช่างไฟดอทคอม
แจ้งปัญหาหรือปรึกษาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ฟรี!!!
HOTLINE-061-417-5732
https://www.facebook.com/changfidotcom
Line: @changfi
ขั้นตอนการใช้บริการ
แอดไลน์ > แจ้งปัญหา > รอราคา > ตกลงราคา > รับบริการ

