
ระบบลงดิน หรือที่เรียกกันว่า “สายดิน” (Grounding System) คือหัวใจสำคัญของความปลอดภัยในระบบไฟฟ้า การมีหรือไม่มีระบบนี้สร้างความแตกต่างอย่างมากต่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานและทรัพย์สิน
1. ความปลอดภัยต่อชีวิตและร่างกาย (การป้องกันไฟดูด)
ระบบที่มีสายดิน | ระบบที่ไม่มีสายดิน |
ปลอดภัยสูง เมื่อเกิดไฟฟ้ารั่วที่โครงโลหะของเครื่องใช้ไฟฟ้า กระแสไฟจะไหลผ่าน สายดิน ลงสู่พื้นดินโดยตรง ทำให้โครงเครื่องมีศักย์ไฟฟ้าเป็นศูนย์ ผู้สัมผัสจะไม่ถูกไฟดูด (หรือถูกดูดน้อยมาก) | อันตรายถึงชีวิต เมื่อเกิดไฟฟ้ารั่วที่โครงโลหะ กระแสไฟจะไม่มีทางลงดิน ทำให้โครงเครื่องมีกระแสไฟฟ้า ผู้ที่ไปสัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นจะกลายเป็นทางผ่านของกระแสไฟฟ้าลงสู่พื้นดิน เกิดอาการไฟดูดรุนแรง |
2. การทำงานของอุปกรณ์ป้องกัน (เบรกเกอร์ และ เครื่องตัดไฟรั่ว)
ระบบที่มีสายดิน | ระบบที่ไม่มีสายดิน |
ทำงานรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เมื่อมีไฟฟ้ารั่ว สายดินจะทำให้กระแสไฟฟ้าไหลลงดินอย่างรวดเร็ว (เกิดเป็นกระแสลัดวงจรลงดิน) ส่งผลให้ เบรกเกอร์ หรือ เครื่องตัดไฟรั่ว (RCD/ELCB) ทำงานตัดกระแสไฟฟ้าออกจากระบบได้ทันท่วงที | อาจทำงานช้าหรือไม่ทำงาน หากไม่มีสายดิน กระแสรั่วจะไม่มีทางไหลออก หรือต้องรอให้ไหลผ่านร่างกายผู้ใช้ก่อน เครื่องตัดไฟรั่วจึงจะทำงาน (ซึ่งสายไปแล้ว) และเบรกเกอร์ธรรมดาอาจไม่สามารถตรวจจับกระแสรั่วขนาดเล็กได้ |
3. การป้องกันเครื่องใช้ไฟฟ้า
ระบบที่มีสายดิน | ระบบที่ไม่มีสายดิน |
ปกป้องอุปกรณ์จากความเสียหาย สายดินช่วยควบคุมแรงดันไฟฟ้าในระบบให้คงที่ และเป็นเส้นทางปลอดภัยในการระบายกระแสไฟฟ้าแรงสูงที่เกิดจาก ฟ้าผ่า หรือ ไฟกระชาก (Surge) ลงสู่พื้นดิน ป้องกันไม่ให้กระแสเกินไหลเข้าทำลายแผงวงจรของอุปกรณ์ไฟฟ้า | เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายง่าย เมื่อเกิดฟ้าผ่าหรือไฟกระชาก ระบบจะขาดเส้นทางระบายกระแสเกิน ทำให้กระแสสูงไหลเข้าทำลายเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยตรง อาจทำให้อุปกรณ์พัง หรือทำให้อายุการใช้งานสั้นลง |
4. ความเสถียรของระบบไฟฟ้า
ระบบที่มีสายดิน | ระบบที่ไม่มีสายดิน |
ระบบมีเสถียรภาพ ช่วยให้แรงดันไฟฟ้าในระบบมีความสมดุลและคงที่ ทำให้การทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และระบบควบคุมต่างๆ (เช่น คอมพิวเตอร์ หรือ PLC) เป็นไปอย่างราบรื่น | ระบบไม่เสถียร ทำให้แรงดันไฟฟ้าในแต่ละเฟสไม่สมดุล อาจเกิดการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (Noise) ส่งผลให้ระบบควบคุมหรืออุปกรณ์ที่มีความละเอียดอ่อนทำงานผิดพลาดได้ง่าย |
ระบบลงดินไม่ได้มีไว้เพื่อให้ไฟฟ้าใช้งานได้ (เพราะไฟฟ้ายังทำงานได้โดยไม่มีสายดิน) แต่มีไว้เพื่อ ความปลอดภัยสูงสุด
การมีสายดิน คือการสร้าง “เส้นทางสำรอง” ที่ดีที่สุดและสะดวกที่สุดให้กระแสไฟฟ้ารั่วไหลลงดินไป ก่อนที่จะไหลผ่านร่างกายมนุษย์ ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยทางไฟฟ้าที่จำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน
#ช่างไฟดอทคอม บริการงานซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้า ไฟฟ้ากำลัง งานออกแบบติดตั้ง ครบจบ
ขั้นตอนการใช้บริการ
แอดไลน์ > แจ้งปัญหา > รอราคา > ตกลงราคา > รับบริการ

