
ในสถานการณ์ฉุกเฉินจากเพลิงไหม้ ทุกวินาทีมีความหมาย การที่ระบบไฟฟ้าที่สำคัญยังคงทำงานได้แม้ในสภาวะที่เกิดไฟไหม้ สามารถสร้างความแตกต่างระหว่างความปลอดภัยและการสูญเสียได้อย่างมหาศาล นั่นคือบทบาทสำคัญของ สาย FRC (Fire Resistant Cable) หรือ “สายทนไฟ”
สาย FRC (Fire Resistant Cable) คืออะไร?
สาย FRC คือสายไฟฟ้าที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษให้มีคุณสมบัติในการ “ทนไฟ” ซึ่งหมายความว่าสายยังคงสามารถ จ่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง (Circuit Integrity) ภายใต้อุณหภูมิสูงและสภาวะเพลิงไหม้ได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง โดยไม่เกิดการลัดวงจรหรือหยุดทำงาน สายประเภทนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ “วงจรช่วยชีวิต” (Life Safety Circuits) ในอาคารและสถานที่ต่างๆ
คุณสมบัติหลักของสาย FRC
สาย FRC ไม่ได้มีแค่คุณสมบัติทนไฟเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมคุณสมบัติอื่นๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยสูงสุด:
- ต้านทานการติดไฟ (Fire Resistance / Circuit Integrity): นี่คือคุณสมบัติหลักที่ทำให้สาย FRC แตกต่างจากสายทั่วไป โดยสายจะถูกห่อหุ้มด้วยวัสดุพิเศษ เช่น Mica Tape ซึ่งเป็นฉนวนกันความร้อนและไฟฟ้าที่สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้ ทำให้สายยังคงจ่ายกระแสไฟฟ้าได้แม้จะสัมผัสกับเปลวไฟโดยตรง
- ต้านทานการลุกลามไฟ (Flame Retardant): สายมีคุณสมบัติที่ช่วยจำกัดการลุกลามของไฟ ไม่ให้ไฟแพร่กระจายไปตามสายเคเบิลไปยังส่วนอื่นๆ ของอาคาร
- ปล่อยควันน้อย (Low Smoke Emission): เมื่อเกิดการเผาไหม้ สาย FRC จะปล่อยควันออกมาในปริมาณที่น้อยกว่าสายไฟทั่วไปอย่างมาก เพื่อลดการบดบังทัศนวิสัยในการอพยพ และลดอันตรายจากการสูดดมควัน
- ปราศจากสารฮาโลเจนและไม่ก่อให้เกิดก๊าซกรด (Halogen Free / Low Acid Gas Emission): ฉนวนของสาย FRC ทำจากวัสดุที่ไม่มีสารฮาโลเจน (เช่น คลอรีน ฟลูออรีน) ซึ่งเมื่อถูกเผาไหม้จะไม่ปล่อยก๊าซพิษที่เป็นกรดออกมา ก๊าซเหล่านี้เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ และยังก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง
โครงสร้างของสาย FRC
โดยทั่วไปแล้ว สาย FRC จะมีโครงสร้างที่ออกแบบมาเพื่อรองรับคุณสมบัติทนไฟ:
- ตัวนำ (Conductor): มักจะเป็นทองแดง
- ฉนวนกันความร้อนและไฟฟ้า (Insulation / Fire Barrier): นี่คือส่วนสำคัญที่ทำให้สายทนไฟได้ โดยส่วนใหญ่จะใช้ Mica Tape พันรอบตัวนำหลายชั้น เพื่อเป็นเกราะป้องกันความร้อน
- เปลือกนอก (Outer Sheath): ทำจากวัสดุประเภท Low Smoke Halogen Free (LSHF หรือ LSZH) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านทานการลามไฟ ปล่อยควันน้อย และไม่ปล่อยก๊าซกรด
การใช้งานสาย FRC (Fire Resistant Cable)
สาย FRC ถูกนำไปใช้ในวงจรไฟฟ้าที่สำคัญยิ่งยวด ซึ่งจำเป็นต้องทำงานได้อย่างต่อเนื่องในสถานการณ์เพลิงไหม้ เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน:
- ระบบเตือนภัยเพลิงไหม้ (Fire Alarm Systems): เพื่อให้สัญญาณเตือนภัยยังคงทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยในการอพยพผู้คน
- ระบบส่องสว่างฉุกเฉิน (Emergency Lighting Systems): ให้แสงสว่างนำทางในการอพยพเมื่อไฟฟ้าหลักดับ
- ระบบควบคุมควันและระบายอากาศ (Smoke Control and Ventilation Systems): เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของควันไฟ
- ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ (Automatic Fire Suppression Systems): เช่น ระบบ Sprinkler เพื่อให้ปั๊มน้ำหรือวาล์วยังคงทำงานได้
- ลิฟต์ดับเพลิงและลิฟต์โดยสารฉุกเฉิน: เพื่อให้ลิฟต์ยังคงใช้งานได้สำหรับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหรือการอพยพฉุกเฉิน
- ปั๊มน้ำสำหรับดับเพลิง: เพื่อให้ปั๊มทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
- ระบบสื่อสารฉุกเฉิน: เช่น โทรศัพท์ฉุกเฉิน
- วงจรไฟฟ้าสำคัญอื่นๆ ในอาคารสาธารณะขนาดใหญ่: เช่น โรงพยาบาล สนามบิน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม อาคารสูง อาคารใต้ดิน ที่ต้องการมาตรฐานความปลอดภัยสูง
มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับสาย FRC
การทดสอบและมาตรฐานของสาย FRC มีความเข้มงวดสูง เพื่อรับรองประสิทธิภาพการทนไฟ มาตรฐานที่สำคัญได้แก่:
- BS 6387: เป็นมาตรฐานอังกฤษที่ครอบคลุมการทดสอบสาย FRC ในสภาวะต่างๆ ได้แก่
- C: Resistance to Fire (ทนไฟอย่างเดียว) ที่อุณหภูมิ 950°C เป็นเวลา 3 ชั่วโมง
- W: Resistance to Fire with Water (ทนไฟและน้ำ)
- Z: Resistance to Fire with Mechanical Shock (ทนไฟและแรงกระแทก)
- IEC 60331: มาตรฐานสากลสำหรับการทดสอบ Circuit Integrity (ความสามารถในการจ่ายไฟต่อเนื่องขณะเพลิงไหม้)
- IEC 60332: มาตรฐานสำหรับการทดสอบการลามไฟ (Flame Retardant)
- IEC 61034: มาตรฐานสำหรับการทดสอบการปล่อยควัน (Smoke Emission)
- IEC 60754: มาตรฐานสำหรับการทดสอบการปล่อยก๊าซกรด (Acid Gas Emission)
ในการเลือกใช้สาย FRC ควรพิจารณามาตรฐานที่สายผ่านการทดสอบมาอย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าสายนั้นเหมาะสมกับข้อกำหนดของอาคารและระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด
ข้อควรพิจารณาในการติดตั้งและใช้งาน
- การออกแบบระบบ: ควรมีการออกแบบระบบไฟฟ้าโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อระบุตำแหน่งและความยาวของสาย FRC ที่จำเป็น
- การติดตั้ง: ควรติดตั้งตามมาตรฐานที่กำหนด เช่น การใช้เคเบิลแคลมป์และอุปกรณ์รองรับที่ทนไฟ เพื่อให้สายยังคงอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องขณะเกิดเพลิงไหม้
- การตรวจสอบและบำรุงรักษา: ควรมีการตรวจสอบและบำรุงรักษาสาย FRC เป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่ายังคงอยู่ในสภาพที่ดีและพร้อมใช้งาน
สาย FRC (Fire Resistant Cable) เป็นมากกว่าแค่สายไฟทั่วไป แต่เป็นส่วนสำคัญของระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันอัคคีภัย การลงทุนในสาย FRC ที่มีคุณภาพและผ่านการรับรองมาตรฐาน จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าระบบสำคัญต่างๆ ในอาคารจะยังคงทำงานได้ในสถานการณ์ฉุกเฉินจากเพลิงไหม้ ช่วยยืดเวลาการอพยพ ลดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน และสร้างความปลอดภัยที่แท้จริงให้กับผู้ใช้งานอาคาร
บริการงานระบบไฟฟ้า #ช่างไฟดอทคอม
ขั้นตอนการใช้บริการ
แอดไลน์ > แจ้งปัญหา > รอราคา > ตกลงราคา > รับบริการ

