หลักการทำงานของวิทยุ

วิทยุรุ่นเก่า
วิทยุรุ่นเก่า

การแปลงเสียงสู่คลื่นและกลับมาเป็นเสียงอีกครั้ง

วิทยุเป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงโลกการสื่อสารไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้ผู้คนสามารถรับฟังข่าวสาร ความบันเทิง และติดต่อสื่อสารกันได้ในระยะไกลโดยไม่ต้องพึ่งพาสายสัญญาณ หลักการทำงานของวิทยุนั้นอาศัยปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ที่เรียกว่า “คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า” ซึ่งสามารถเดินทางผ่านอากาศและอวกาศได้

คลื่นวิทยุคืออะไร?

คลื่นวิทยุคือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่มีความถี่ต่ำกว่าคลื่นแสงที่เรามองเห็น คลื่นเหล่านี้เดินทางด้วยความเร็วแสง และมีคุณสมบัติในการเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางต่างๆ รวมถึงสภาวะสุญญากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากคลื่นเสียงธรรมดาไม่สามารถเดินทางไปได้ไกลนัก จึงจำเป็นต้องอาศัยคลื่นวิทยุเป็น “พาหะ” หรือ “คลื่นพาห์” (Carrier Wave) ในการนำพาสัญญาณเสียงไปในระยะทางที่ไกลขึ้น

กระบวนการทำงานของวิทยุ: ภาคส่งและภาครับ

การทำงานของวิทยุแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ภาคส่ง (Transmitter) และ ภาครับ (Receiver)

1. ภาคส่ง (Transmitter): การเปลี่ยนเสียงเป็นคลื่นวิทยุ

  • แหล่งกำเนิดเสียง: เริ่มต้นจากสัญญาณเสียง เช่น เสียงพูด ดนตรี หรือข้อมูลอื่นๆ ที่ต้องการส่ง สัญญาณเสียงเหล่านี้เป็นสัญญาณไฟฟ้าที่มีความถี่ต่ำ (Audio Frequency: AF)
  • การสร้างคลื่นพาหะ: เครื่องส่งวิทยุจะสร้างคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่สูงมาก ซึ่งเรียกว่า “คลื่นพาหะ” (Radio Frequency: RF) คลื่นพาหะนี้เป็นคลื่นที่ใช้ในการนำพาสัญญาณเสียงไป
  • การผสมสัญญาณ (Modulation): นี่คือหัวใจสำคัญของกระบวนการ ในขั้นตอนนี้ สัญญาณเสียง (AF) จะถูกนำไปผสมกับคลื่นพาหะ (RF) เพื่อให้คลื่นพาหะ “แบก” ข้อมูลเสียงไป โดยมี 2 รูปแบบหลักๆ คือ
    • การกล้ำแอมพลิจูด (Amplitude Modulation – AM): เป็นการเปลี่ยนความแรง (แอมพลิจูด) ของคลื่นพาหะให้แปรผันไปตามความแรงของสัญญาณเสียง ในขณะที่ความถี่ของคลื่นพาหะยังคงเดิม
    • การกล้ำความถี่ (Frequency Modulation – FM): เป็นการเปลี่ยนความถี่ของคลื่นพาหะให้แปรผันไปตามความแรงของสัญญาณเสียง ในขณะที่ความแรง (แอมพลิจูด) ของคลื่นพาหะยังคงเดิม
  • การขยายสัญญาณ: สัญญาณคลื่นวิทยุที่ถูกผสมแล้วจะถูกขยายให้มีกำลังแรงขึ้น เพื่อให้สามารถเดินทางไปได้ไกล
  • การส่งสัญญาณออกอากาศ: สัญญาณคลื่นวิทยุที่ถูกขยายแล้วจะถูกส่งออกไปทาง สายอากาศ (Antenna) ซึ่งจะแปลงสัญญาณไฟฟ้าเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและแผ่กระจายออกไปในอากาศ

2. ภาครับ (Receiver): การเปลี่ยนคลื่นวิทยุกลับมาเป็นเสียง

  • การรับสัญญาณ: สายอากาศ (Antenna) ของเครื่องรับวิทยุจะทำหน้าที่ดักจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ลอยมาในอากาศ
  • การเลือกความถี่ (Tuning): สัญญาณคลื่นวิทยุที่ถูกดักจับได้จะมีหลายความถี่ ภาครับจะมีวงจรที่เรียกว่า วงจรจูน (Tuner) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกรับคลื่นความถี่ของสถานีวิทยุที่ต้องการได้ โดยจะกรองเอาเฉพาะคลื่นความถี่ที่ต้องการเข้ามา
  • การแยกสัญญาณ (Demodulation หรือ Detection): หลังจากเลือกคลื่นความถี่ได้แล้ว ขั้นตอนนี้จะเป็นการแยกสัญญาณเสียง (AF) ออกจากคลื่นพาหะ (RF) ซึ่งเป็นกระบวนการย้อนกลับกับการผสมสัญญาณในภาคส่ง
    • ในระบบ AM วงจรจะตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของแอมพลิจูด เพื่อดึงสัญญาณเสียงออกมา
    • ในระบบ FM วงจรจะตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของความถี่ เพื่อดึงสัญญาณเสียงออกมา
  • การขยายสัญญาณเสียง: สัญญาณเสียงที่ถูกแยกออกมาจะมีกำลังอ่อน จึงต้องถูกขยายให้มีกำลังแรงขึ้น เพื่อให้สามารถขับลำโพงได้
  • การแปลงเป็นเสียง: สัญญาณเสียงที่ถูกขยายแล้วจะถูกส่งไปยัง ลำโพง (Speaker) ซึ่งจะแปลงสัญญาณไฟฟ้ากลับมาเป็นคลื่นเสียงที่เราสามารถได้ยิน

สรุป

โดยรวมแล้ว หลักการทำงานของวิทยุคือการเปลี่ยนสัญญาณเสียงให้เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (คลื่นวิทยุ) ที่มีความถี่สูงเพื่อส่งผ่านอากาศในระยะไกล แล้วเครื่องรับวิทยุจะทำหน้าที่ดักจับคลื่นวิทยุนั้น แยกสัญญาณเสียงออกจากคลื่นพาหะ และแปลงกลับมาเป็นเสียงที่เราได้ยินอีกครั้ง เทคโนโลยีนี้เป็นรากฐานสำคัญของการสื่อสารไร้สายในปัจจุบันและยังคงเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา

างไฟดอทคอม บริการงานซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้า ไฟฟ้ากำลัง งานออกแบบติดตั้ง ครบจบ

ขั้นตอนการใช้บริการ

แอดไลน์ > แจ้งปัญหา > รอราคา > ตกลงราคา > รับบริการ

ขั้นตอนการให้บริการ
ไลน์ OA

HOTLINE-061-417-5732

https://www.facebook.com/changfidotcom

Line: @changfi

วิทยุ, หลักการทำงานของวิทยุ