ข้อดีของ รถยนต์ไฟฟ้า
ในปัจจุบัน ทั่วโลกมีการใช้งานรถยนต์อยู่ประมาณ 1,200 ล้านคันและคาดการณ์กันว่าจะพุ่งสูงไปถึง 2,000 ล้านคันในปี 2035 เป็นที่รู้กันดีว่ารถยนต์เป็นตัวต้นเหตุใหญ่ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซน์ ซึ่งถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศสูงถึง 1,730 ล้านตันต่อปี หากมีผู้เปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ก็จะช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซน์ที่ก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจกและทำให้สภาพแวดล้อมของโลกดีขึ้นอย่างมากและยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่เสียไปกับค่าน้ำมันที่มีราคาสูงอีกด้วย
ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า
ทุกสิ่งบนโลกนี้เมื่อมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย รถยนต์ไฟฟ้าเองก็มีข้อเสียอยู่ด้วยเช่นกันจะแบ่งข้อเสียต่างๆเป็นข้อๆ
1.ราคาแพง
รถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้นจัดอยู่ในประเภทรถยนต์ที่มีราคาสูงถึงสูงมาก เช่น Tesla Model S มีราคาสูงถึง 2.4 ล้านบาท ยังไม่รวมภาษีนำเข้าหากนำมาขายในประเทศไทยอีกนะ ราคาไม่ต่างจากรถยนต์หรูอย่าง Mercedes-Benz หรือ BMW เลย หรือแม้แต่ยี่ห้อที่มีราคาย่อมเยากว่าอย่าง Nissan Leaf ราคาเริ่มต้นในสหรัฐฯ ก็ยังสูงถึง 1 ล้านบาทเลยทีเดียว
2.มีตัวเลือกน้อยมาก
แม้ว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะส่งผลดีต่อโลก แต่ก็ยังมีการผลิตออกมาไม่มากนัก ทำให้มีตัวเลือกให้ผู้บริโภคเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในการใช้งานน้อยมากๆ อีกประเด็นคือ รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์รุ่นเล็ก สำหรับใช้ในเมืองระยะสั้นๆและด้วยข้อจำกัดของพลังงานแบตเตอรี่ รวมไปถึงสถานที่ให้บริการชาร์จไฟที่ยังมีน้อยมาก ทำให้ไม่สามารถขับออกต่างจังหวัดไกลๆได้
3.ใช้เวลาในการชาร์จนาน
ข้อจำกัดของรถยนต์ไฟฟ้า นั่นก็คือระยะเวลาในการชาร์จที่ยาวนาน โดยเฉลี่ยการชาร์จให้เต็ม 1 ครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 4 ชั่วโมงกับอีก 30 นาที เท่ากับว่าต้องชาร์จในเวลากลางคืนและใช้รถเวลากลางวันเท่านั้น หากใช้ผิดแปลกไปจากนี้อาจจะทำให้เกิดปัญหากับการใช้รถยนต์ได้ ต่างจากการเติมน้ำมันที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
4.สถานีชาร์จไฟฟ้ายังไม่แพร่หลาย
เนื่องจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้ายังไม่เป็นที่แพร่หลายนัก จึงยังไม่มีสถานีในการชาร์จพลังงานไฟฟ้าที่มากและครอบคลุมอย่างพอเพียง ซึ่งทำให้การใช้รถในการเดินทางไกลนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
5.ระยะทางจำกัด
มีระยะทางในการขับขี่ได้เพียง 250 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง หรือแม้แต่ Chevrolet Bolt EV ที่เพิ่งเปิดตัวในสหรัฐฯ เมื่อปลายปี 2016 ก็สามารถวิ่งได้เป็นระยะทาง 320 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งเท่านั้น
